รมช.มหาดไทย ระบุ การขอใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเห็นชอบ เพื่อป้องกันการบุกรุก และเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินสาธารณะ ชี้ การกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน และผ่อนปรนการใช้ที่ดินชั่วคราว

รมช.มหาดไทย ระบุ การขอใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเห็นชอบ เพื่อป้องกันการบุกรุก และเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินสาธารณะ ชี้ การกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน และผ่อนปรนการใช้ที่ดินชั่วคราว . 28 มี.ค. 2567 นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มาตอบกระทู้ถาม ของนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.พรรคก้าวไกล ที่ถามว่าจะยกเลิกมาตรา 7 ในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันได้หรือไม่ ว่า วันนี้จะเห็นว่าที่สาธารณประโยชน์มีการบุกรุก มีการเข้าไปประทำประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตมากมาย และเป็นปัญหากับสังคมในหลายหลายพื้นที่ ซึ่งที่สาธารณประโยชน์เป็นที่ดินที่ทางราชการจัดให้หรือสงวนไว้เพื่อให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันทางสาธารณะ เพราะฉะนั้นต้องกระทําด้วยความระมัดระวัง ใช้ประโยชน์ด้วยความถูกต้อง ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลอื่นๆ เพราะฉะนั้นจึงมีการแบ่งแยกอํานาจกันในการดําเนินการ ซึ่งเป็นขั้นตอนของกฎหมาย ตามมาตรา 122 แห่งพ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 7 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน 2553 ซึ่งทางอำเภอไม่มีอำนาจต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัด และปฎิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้ดินเปลี่ยนแปลงง่าย เป็นเงื่อนไขที่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความเห็นที่ตรงกัน . กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในการใช้ หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาและเกิดความชัดเจนในการปฎิบัติว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น อำเภอ หรือเกี่ยวข้องกับผู้ว่าฯ อาทิเช่น การขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินอันเป็นสมบัติของแผ่นดินใช้ชั่วคราวไปจัดงานต่างๆ ในที่สาธารณะอาจจะไม่เกิน 30 วัน ก็ต้องไปขออนุญาตผู้ว่า ฯ นายอําเภอก็ไม่มีอํานาจ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมตามโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดําเนินการปรับปรุงหรือพัฒนาที่ดินโดยไม่กระทบต่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันของราษฎร อปท.หรือนายอำเภอสามารถให้ความเห็นชอบได้ และถ้ามีกฎหมายอื่นๆ เกี่ยวข้องก็ต้องดําเนินการให้ครบกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น การก่อสร้างก็ต้องเกี่ยวข้องกฎหมายควบคุมการก่อสร้าง "สิ่งที่ท่านกังวลว่าการบริการจะทำอย่างไรให้เกิดความความสะดวกรวดเร็ว และสามารถบริการประชาชนได้อย่างดี และไม่เป็นปัญหาเรื่องการริดรอนสิทธิ์หรือการกระทบกับที่สาธารณะที่วันนี้เหลืออยู่น้อยเต็มที จึงจําเป็นต้องหาวิธีการให้เกิดความรอบคอบและเป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป และความกังวลว่าขั้นตอนของการดําเนินการขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่มีขั้นตอนค่อนข้างมาก น่าจะมอบหมายให้กับอปท.ดําเนินการแทนนั้น เรื่องนี้เราต้องทำตามกฎหมาย หากสมาชิกเห็นว่าเป็นประโยชน์จะออกกฎหมายอะไรให้ยึดโยงท้องถิ่นเพื่อความคล่องตัว ก็สามารถไปรับฟังเสียงประชาชน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็พยายามออกหลักเกณฑ์ผ่อนปรนการใช้ที่ดินเป็นการชั่วคราว แต่เป็นการถาวรต้องไปแก้กฎหมาย " . นายทรงศักดิ์ ยังตอบคำถาม เรื่องการบริหารงานบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น 2542 มีองค์กรที่ทําหน้าที่เฉพาะแยกต่างหากจากกระทรวงมหาดไทย มีองค์ประกอบที่มีลักษณะเป็นไตรภาคี แบ่งเป็น 3 ระดับ ทําหน้าที่กําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น และขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารส่วนบุคคลท้องถิ่น กําหนดให้คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่ในการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ให้กําหนดประเภทอํานวยการ ประเภทบริหารท้องถิ่น และตําแหน่งสายงานบริหารโดยคณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นไปดําเนินการแทนได้0 โดยมีแนวทางประกาศสอบคัดเลือกข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นให้ดํารงตําแหน่งสายงานบริหารปีละ 2 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้ามีคสช.มีการประกาศสอบสายผู้บริหารปีละ 4 ครั้ง ซึ่งเราพยายามมอบอำนาจให้ทางจังหวัดจัดสอบในตำแหน่งที่ว่าง เพื่อให้สอดรับกับพื้นที่และความต้องการของแต่ละอปท.สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัว จากเดิมอาจจะต้องจ้างมหาวิทยาลัยในการตรวจสอบ แต่วันนี้เราอาจจะจ้างมหาลัยตรวจสอบเองด้วยร่วมจัดสอบหรือจัดจ้างสวัสดิการอื่นที่มีอํานาจหน้าที่ช่วยในการสรรหาได้ ซึ่งเดือนเมษายนต้องสอบรอบแรกและเดือนตุลาคมรอบสอง ทั้งนี้ขอเรียนว่ามันมีปัญหาบ้าง เพราะเกิดความไม่เข้าใจหรือกังวลใจว่าการจัดสอบถ้าเกิดมีเรื่องทุจริต คนที่มีวิธีการจัดสอบจะต้องถูกดําเนินการอย่างไร จึงพยายามจะมอบอํานาจคืนให้กับกองกลางดําเนินการจัดสอบ ทั้งนี้ ได้มีการออกประกาศเพิ่มเติมในกรณีที่เรื่องของค่าธรรมเนียมการจัดสอบคัดเลือกที่เมื่อก่อนเคยกําหนดไว้ที่ 400 บาท แต่ตอนนี้จะเพิ่มเป็นไม่เกิน 800 บาท เพื่อให้เกิดความคล่องตัว มั่นใจว่าในเดือนตุลาคมมีประมาณ 50 จังหวัดจะจัดสอบอะไรที่เป็นปัญหาอุปสรรคเราจะลงไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ ขณะเดียวกันก็จะมีค่าตอบแทนเพิ่มสำหรับคนที่รักษาการในตำแหน่งอยู่ ยังไม่มีตําแหน่งมาทดแทน โดยภาพรวมงบลงทุนของอปท. แต่ละแห่งจะเหลือไม่เกิน 10% เพราะฉะนั้นถ้าบรรจุข้าราชการไปเต็มพิกัดบางครั้งก็เกิดปัญหาได้ ส่วนเรื่องการวิ่งเต้นเสียเงิน กระทรวงมหาดไทยต้องทําให้เกิดความรอบคอบ ไม่ให้มีปัญหาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

แสดงความคิดเห็น