“ชาดา” ตอบกระทู้ ออกเอกสารสิทธิ์ ในเขต สงวนทุ่งเลี้ยงสัตว์ แนะ สส.ทำหนังสือถึง ผวจ. ให้ดำเนินการตามข้อกฎหมาย แล้วส่งเข้ามาในกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งทีมส่วนกลางเข้าแก้ไขปัญหา

07 มีนาคม 2024 14:52

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ เรื่องของการแก้ไขปัญหาออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้แก่พี่น้องประชาชนในเขตสงวนทุ่งเลี้ยงสัตว์ ว่า เขตสงวนทุ่งเลี้ยงสัตว์ ดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน สําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 1304 จึงไม่สามารถออกเอกสารที่ดินได้ตามนัยยะกระทรวง ตามข้อกฎหมาย แต่หากราษฎรได้ครอบครองที่ดินนั้นมาก่อนที่ดินเป็นของรัฐ และมีหลักฐานอื่นๆเช่น สค1 ,นส 3 ก สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดิน ตามมาตรการพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินของรัฐจังหวัด เพื่อดําเนินการพิสูจน์สิทธิ์ครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐตามมาตรการที่คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ได้กําหนดไว้ โดยมีคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิ์ดําเนินการอยู่ แล้ว ตอนนี้มีกฎหมาย คทช. ซึ่งเหนือกรมที่ดินอีก เราตั้งอนุกรรมการและดําเนินการตามตามพื้นที่ที่มีการร้องขอ . ส่วนที่ว่าหากรัฐบาลไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่พี่น้องประชาชนได้ จะแก้ปัญหาอย่างไรนั้น นายชาดา กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องต้องขออนุญาตอธิบาย ว่าพื้นที่ที่มันเป็นความเจริญแล้ว แต่ยังเป็นพื้นที่ป่าสงวน หรือเป็นพื้นที่อื่นซึ่งเป็นเมืองแล้ว อย่าง จ.อุทัยธานี 3 อําเภอ มีหมดแล้ว เต็มหมดแล้วทั้งอําเภอ ทั้งอะไรต่ออะไร แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ป่าอะไรก็ตาม มันก็เป็นปัญหาที่ต้องแก้อีกระบบหนึ่งโดยการใช้ระบบกฎหมาย แต่กรณีถ้าเกิดว่าเป็นพื้นที่ทํากินที่ คทช.จะจัดให้ ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2547 เห็นชอบนโยบายจัดการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐโดยให้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมอบหมายให้กรมที่ดิน นําที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ประชาชนเลิกใช้ประโยชน์แล้ว มาร่วมกันจัดระเบียบการถือครอง ภายใต้แผนปฏิบัติการที่ดินของรัฐ ในพื้นที่ที่มีการบุกรุก ในที่ดินศาลและประโยชน์ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดย คทช.จะจัดให้คนละ 15 ไร่ . นายชาดา กล่าวว่า ต่อมาเมื่อคณะรัฐมนตรี ได้มีมติ เมื่อปี 2558 อนุมัติจัดการที่ดินชุมชนตามโยบายของรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในที่ดินของรัฐเป็นกลุ่ม หรือ ชุมชน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติกําหนด และคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อปี 2559 รับทราบกระบวนการจัดที่ดินชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลในที่ดินสาธารณประโยชน์ กรมที่ดินได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน ให้อยู่ภายใต้คณะกรรมการภายใต้คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ คทช. โดยนําที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนเลิกใช้ร่วมกันมาจัดระเบียบการถือครองให้แก่ราษฎรเปลี่ยนแปลงรวมหรือออกหนังสืออนุญาตให้แก่ชุมชนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลหรือรูปแบบสหกรณ์ หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม ตามสภาพที่เข้าใช้พื้นที่ดินของรัฐนะครับโดยอาศัยอํานาจตาม มาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการอนุญาตให้ประชาชนใช้ที่ดินของรัฐปี 2547 ส่วนคุณสมบัติและเงื่อนไขในการใช้ประโยชน์ที่ดินนั้นผู้ได้รับการจัดที่ดินตามที่ คทช. กําหนด ถ้าเป็นพื้นที่ที่จัดการง่ายที่ประชาชนเลิกใช้แล้ว จะมาแบ่งให้พี่น้องประชาชนอยู่กันคนละ 15 ไร่ ซึ่ง คทช. ได้ทําไปในหลายพื้นที่แล้ว แต่กรณีถ้าเป็นพื้นที่ชุมชนก็จะต้องเป็นอีกระบบหนึ่ง . “เรียนว่าผมอยากให้ทางท่าน สส. ทําเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เพื่อดําเนินการ ผมเข้าใจครับว่าคําตอบผมมันเหมือนไม่ชัดเจน เรียนตรงๆ นะ เรามาจากนักการเมืองด้วยกัน เราเข้าใจ คําตอบที่ตอบไป เป็นคําตอบราชการ แต่ถามว่าแล้วจะไปยังไงต่อ ท่านเป็น สส.รับผิดชอบอยู่ ให้มันแก้ปัญหาประชาชนได้ อย่าว่าด้วยท่านเลย ผมคิดอยู่เหมือนกัน คือเรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อน ทําไม่ดีหาว่าเอาแผ่นดิน ประเทศ ไปอีก และเอาไปให้เอกชนอีก ซึ่งตรงนี้มันมีแง่กฎหมาย หลายหลายมุมมองมาก ผมพยายามจะแก้ไข แล้วเรียนว่าในส่วนแนะนำท่านทําเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเลยครับ เจาะจงมาเลย แล้วให้จังหวัดส่งไปให้กระทรวง จะได้ให้ทีมลงไปจัดการแก้ไข มันจะได้เกิดประโยชน์จริงๆ ตอบท่านแบบนี้ก็ตอบไป มันไปในอากาศ มันไม่ได้ประโยชน์ แนะนําว่าท่านร้องไปที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด โดยตรงเลย”นายชาดา กล่าว


แสดงความคิดเห็น